วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

เธอเห็นท้องฟ้า(จำลอง)นั่นไหม




             จากที่เคยนำเสนอเรื่องนิทรรศการออนไลน์ไปแล้ว ครั้งนี้ก็มีโอกาสได้ไปนิทรรศการถาวร เป็นที่ที่เชื่อว่าเด็กๆ หลายคนชื่นชอบ รวมทั้งผู้ใหญ่อย่างเตยด้วยค่ะ นั่นก็คือ "ท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ"


             เตยเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ รู้จักท้องฟ้าจำลองมาจากภาพยนตร์เรื่อง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ดู  พระเอกกับนางเอกไปดูดาวกันที่ท้องฟ้าจำลอง ฉากนั้นรู้สึกว่า เหยยย น่ารักจัง.. . และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักและเห็นภาพท้องฟ้าจำลองผ่านจอหนังค่ะ ตั้งแต่เรียนที่กรุงเทพฯ มา 4 ปีก็ไม่มีโอกาสได้ไปสักที และแล้วโอกาสนี้ก็มาถึงค่า.. .



             พวกเรา 5 คน เตย บิ๋ม ปุ๊ย พร้อม พลีม คือผู้ร่วมเดินทางไปท้องฟ้าจำลองในครั้งนี้ ก่อนอื่นต้องบอกว่าเตยคิดว่าท้องฟ้าจำลอง ก็จะมีแค่ท้องฟ้าจำลองที่สำหรับไว้ฉายดาวให้ดูอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วเมื่อไปถึง มันใหญ่มากค่า เพราะว่าที่นี่เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ไม่ได้มีเพียงท้องฟ้าจำลองอย่างเดียว แต่ยังมีอาคารต่างๆ เพื่อจัดแสดงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย อย่างเช่น


             อาคาร 2 เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

  • ชั้นที่ 1 พบกับการจัดแสดงวิทยาศาสตร์แสนสนุก มีสื่อการเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียง แสง และกลไกการใช้แรงที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
  • ชั้นที่ 2 เป็นสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับแม่เหล็กและการนำไปใช้ในด้านพลังงาน ข้างๆ กันจะพบทางเชื่อมที่พาเข้าไปสู่ "ชีวิตกับการเวลา" ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีเกี่ยวกับนาฬิกา และการนำไปประยุกต์ใช้กับสื่อต่างๆ อีกมากมาย

  • ชั้นที่ 3 จะพบกับปฏิบัติการ "เทคโนโลยีหุ่นยนต์" ให้ความรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์และขั้นตอนการทำงานต่างๆ ข้างๆ กันจะเป็นห้องท่องแดนปิโตเลียม จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับปิโตเลียมทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
  • ชั้นที่ 4 มีการจัดแสดงสื่อต่างๆ เกี่ยวกับโลกของเรา ทั้งสิ่งมีชีวิตในทะเล และสภาพอากาศ รวมถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตต่างๆ และเทคโนโลยี DNA



             มาถึงส่วนที่เป็นไฮไลท์ที่เตยรอคอยก็คือ "ท้องฟ้าจำลอง" จะบอกก่อนว่าวันที่ไป มีน้องๆ เด็กๆ ไปกันเยอะมาก คงจะเป็นทางโรงเรียนพามาดู เมื่อเข้าไปในอาคารท้องฟ้าจำลอง ก็จะเห็นเก้าอี้นั่งมากมาย ตรงกลางจะเป็นเครื่องฉายดาวขนาดใหญ่ มองขึ้นไปบนเพดานกว้างขวาง เมื่อเขาปิดไฟลง ในนั้นก็จะมืดสนิท ผู้บรรยายก็จะบรรยายดาวต่างๆ บนท้องฟ้าจำลองให้เราฟัง แต่บอกตามตรงค่ะว่าฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเสียงเด็กๆ ดังมาก ไม่ค่อยได้ยินเสียงผู้บรรยายเลย ได้เห็นเพียงแค่ดาวต่างๆ บนท้องฟ้าจำลอง แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ามีโอกาส ครั้งหน้าก็จะมาดูใหม่ค่ะ คงได้บรรยากาศเคลิ้มคิดว่าตัวเองเป็นเหมยลี่ นางเอกในเรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ฮ่าาาาาาาาาา.. .


             ท้องฟ้าจำลองจะจัดแสดงเป็นรอบๆ ค่ะ โดยแต่ละรอบนั้นจะใช้เวลาในการจัดฉายประมาณ 1 ชั่วโมง และรายการแสดงจะผลัดเปลี่ยนไปทุกๆ เดือนค่ะ เรื่องที่จัดแสดงก็จะมีเรื่อง ลูกกาบาตถล่มโลก มหัศจรรย์แห่งจักรวาล และแสดงจากแอนโดนเมดาค่ะ

             ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลและรอบการแสดงได้ในเว็บไซต์ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา คลิกเลย


             วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวเรานะคะ ใครที่ต้องการความรู้แบบไม่น่าเบื่อ แนะนำให้ไปค่ะ ถ้าพาเด็กๆ ไปเตยก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้เด็กๆ ชอบเรื่องวิทยาศาสตร์มากขึ้น และยังทำให้เกิดความสนุกในการเรียนรู้ได้ดีทีเดียวค่ะ


TECHNO SHOW CASE



              "TECHNO SHOW CASE" เป็นครั้งแรกที่เตยได้มีโอกาสจัดนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้(สำหรับตัวเอง) กว่าจะมาเป็นนิทรรศการนี้ พวกเรานิสิตเอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ได้ร่วมมือร่วมใจ และระดมความคิดกันร่วมกับอาจารย์ที่ปรึกษา อ.นัทธีรัตน์ พีระพันธุ์ ทุกคนตั้งใจที่จะทำนิทรรศการนี้ให้ออกมาดีที่สุด


              ภายในนิทรรศการ  "TECHNO SHOW CASE" ก็จะแบ่งความรู้ออกไปหลายๆ ด้าน ตามแต่ละซุ้ม ได้แก่
  1. DO YOU HEAR ME? / เกี่ยวกับวิทยุ
  2. NOW YOU SEE ME / เกี่ยวกับโทรทัศน์ทางการศึกษา
  3. SEE SNAP / เกี่ยวกับการถ่ายภาพ
  4. READ ME, PLEASE / เกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์
  5. AWAY SO FAR / เกี่ยวกับการศึกษาทางไกล
  6. AROUND THE WORLD / เกี่ยวกับโซเชียลกับการศึกษา
  7. TECH FOR TEACH / เกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอน
  8. X-PLORING TECH FOR FUN / เกี่ยวกับเกม

             เพื่อนทุกคนในแต่ละซุ้มมีความตั้งใจและทุ่มเทกับงานนี้มากๆ ทุกซุ้มมีความน่าสนใจหมด แต่ละซุ้มมีทั้งความรู้ และมีกิจกรรมให้ทำ ไม่น่าเบื่อ ลืมนิทรรศการวิชาการที่น่าเบื่อแบบเดิมๆ ไปได้เล้ย

               
              เตยรับผิดชอบซุ้ม "AROUND THE WORLD" ร่วมกับเพื่อนๆ อีก 3 คน เป็นซุ้มที่เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียที่นำมาใช้กับการศึกษา ตอนแรกฟังโจทย์ก็เหมือนจะง่าย แต่พอทำจริงๆ ก็ต้องมาช่วยกันคิดว่า จะทำอย่างไรให้น่าสนใจ เนื่องจากโซเชียลมีเดียอยู่ใกล้ตัวเรามากๆ เราต้องดึงจุดที่ใกล้ตัวนี้มานำเสนอให้ผู้ชมเห็นความสำคัญกับโซเชียลที่นำมาใช้กับการศึกษาให้ได้



สมาชิกกลุ่ม "AROUND THE WORLD"

              เราทั้ง 4 คนในกลุ่ม ประชุมกันอยู่บ่อยครั้ง ช่วยเหลือกันทำงานในด้านต่างๆ ปัญหาก็อาจจะมีบ้าง ตอนแรกกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจะไม่พอ เพราะมีโปสเตอร์หลายแผ่น ราคาค่อนข้างแพง แต่ในที่สุดเราก็หาร้านปริ้นโปสเตอร์ราคาย่อมเยาเจอ ปัญหาค่าใช้จ่ายจึงไม่เกิดขึ้น (โล่งใจไปเยอะ ฮ่าๆ)

              ในซุ้มของเรานอกจากจะมีโปสเตอร์ให้ความรู้แล้ว ยังมีกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้ทำ คือมีกิจกรรมบิงโกโซเชียลให้เล่น เป็นเวลาสองรอบ มีของรางวัลสำหรับผู้ชนะ ให้ผู้ที่เข้าชมได้แปะโพสต์อิทแสดงความคิดเห็นตามหัวข้อที่ตั้งไว้ ทำให้เราได้เห็นหลายมุมมองความคิดเห็นมากมาย อ่านไปแล้วก็เพลิน และรู้สึกดีที่มีคนให้ความสนใจกับซุ้มของเรา และเรายังมีแบบจำลองหน้า Facebook ให้ผู้เข้าชมได้แปะสถานะของตัวเอง พร้อมถ่ายรูปแทนรูปโปรไฟล์ของตัวเองอีกด้วย



              วันที่จัดแสดงนิทรรศการ ผู้เข้าชมเยอะเกินความคาดหมาย ข้าวเช้าข้าวเที่ยงก็ต้องไปกินตอนบ่ายสองบ่ายสามกันเลยทีเดียวค่ะ เกินความคาดหมายจริงๆ ฮ่าๆ
              มีผู้เข้าชมคนนึงพูดว่า "สนุกอะ ไม่เหมือนกับงานอื่นๆ เลย" เราได้ยิน เราก็รู้สึกดีใจ ที่มีคนชื่นชอบ ได้รับความรู้พร้อมความสนุกไปกับนิทรรศการที่พวกเราทุกคนตั้งใจทำ ^________________^



              การจัดนิทรรศการครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ คือการจัดนิทรรศการ ได้ทำงานร่วมกับคนหมู่มาก ได้แสดงความคิดเห็น โต้แย้งกันบ้างเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้เรียนรู้ว่าทีมเวิคเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ งานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน ปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น ก็จะเป็นประสบการณ์ในการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป
                            
              

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ชมนิทรรศการง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว









     นิทรรศการออนไลน์ (Exhibition Online)
              นิทรรศการออนไลน์นั้นก็เหมือนกับนิทรรศการทั่วไป แตกต่างกันที่ผู้ชมสามารถดูวัตถุระยะใกล้ชิด และดูวัตถุได้เสมือนจริง แต่ไม่สามารถจับต้องได้จริง ในส่วนของการแสดงเนื้อหาผ่านสื่อ นิทรรศการออนไลน์ไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาในเรื่องของการดมกลิ่นผ่านทางนิทรรศการได้ แต่นิทรรศการออนไลน์นั้นสามารถนำเสนอเรื่องราวได้เหมือนกัน และผู้ชมทั่วไปสามารถเข้าไปดู เข้าไปศึกษาได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ปลายนิ้ว คุณก็สามารถรับชมนิทรรศการต่างๆ ได้แล้ว

              ช่วงที่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับนิทรรศการออนไลน์ ก็ได้เข้าไปเห็นนิทรรศการออนไลน์หนึ่งที่น่าสนใจ วันนี้เลยจะยกมานำเสนอให้ดูว่าเป็นอย่างไร ไปชมกันเล้ยยยย.. .


 นิทรรศการพัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรมในประเทศไทย 
(Social and Cultural Development in Thailand)
              นิทรรศการพัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรมในประเทศไทยเล่าถึง ความเชื่อมโยงทางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนของชนชาติต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและอุษาคเนย์ทั้งภาคพื้นทวีปกับประเทศไทย เนื้อหาที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้แบ่งออกเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่
             





 1. โบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์
             










 2. โบราณดีสมัยประวัติศาสตร์
              











3. กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย
              










4. ภาษาและอักษร


              ในนิทรรศการออนไลน์นี้มีเนื้อหาพร้อมภาพประกอบที่จัดแสดง เสมือนกับได้ไปดูนิทรรศการที่จัดแสดงจริง สามารถเข้าไปชมเต็มๆ ได้ >>คลิกเลย<<

              แต่ถ้าท่านใดอยากชมนิทรรศการที่จัดแสดงจริง เพื่อความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นในการชม สามารถเข้าชมได้ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น.









ขอขอบคุณช้อมูลจาก

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

มากกว่า "MORE THAN"


           

            "ทำนิตยสาร"
                      ...
                      ...
                      ...
                      ...
                      ...
                      ?

               ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้ทำนิตยสาร ก็มีคำถามมากมายอยู่ในสมอง "ทำยังไง" "เขียนยังไง" "วางคอลัมน์ยังไง" และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะปกติเป็นคนอ่านนิตยสารอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่านิตยสารเล่มหนึ่งนั้นต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง ถึงคราวที่เราจะต้องลงมือทำเองซะแล้ว ฮึ่บ! ลองดูสักตั้ง ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้รับรู้ความรู้สึกของคนทำนิตยสารดูบ้าง

               และเมื่อมาถึงการแบ่งกลุ่มโดยการจับสลาก ได้อยู่กลุ่มกับเพื่อนที่ไม่เคยได้ทำงานเป็น กลุ่มร่วมกัน ยกเว้นปลายซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกันเป็นประจำอยู่แล้ว ตอนนั้นก็คิดว่าจะทำงานด้วยกันได้ลงตัวมั้ยน้า พอได้เริ่มประชุมการทำงาน ได้ฟังความคิดของเพื่อนๆ ได้เริ่มทำงานด้วยกัน ก็เลยได้รู้ว่าทุกคนในกลุ่มสามารถเข้ากันได้ อาจจะมีบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน มีปัญหาบ้างบางเรื่อง แต่เราทุกคนก็ปรับตัวเข้าหากันได้เป็นอย่างดี ทำให้ทัศนคติในการทำงานกลุ่มกับเพื่อนที่ไม่ได้สนิทมากของเตยก็ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมความคิดของพวกเราทุกคน จนออกมาเป็นนิตยสารที่มีชื่อว่า "MORE THAN"




               พวกเราวางแผนการทำงานโดยแบ่งคอลัมน์ให้ทุกๆ คนไปรับผิดชอบเขียนคอลัมน์ของตนเอง จะมีบางคอลัมน์ที่เราไปเก็บข้อมูลด้วยกัน และนัดกันมาทำที่มหาวิทยาลัยเพื่อวางคอลัมน์ให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน
               เตยได้ทำคอลัมน์ของสะสม, อาหาร, เทคโนโลยี และคอลัมน์ OH MY GOD การได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ก็ทำให้ได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการตั้งคำถาม และการแก้ไขปัญหาให้ผ่านไปได้
               คอลัมน์ที่เตยชอบและสนุกในการทำที่สุดก็คือคอลัมน์อาหาร เพราะเป็นคนชอบกินอยู่แล้ว มีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ก็อยากลองไปกิน แล้ววันหนึ่งก็มีโอกาสไปเห็นเขาขายแมงป่องทอดที่ถนนข้าวสาร เลยรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก จะมีใครกล้ากินมั้ย มันจะมีพิษมั้ย กินแล้วจะปลอดภัยมั้ย พอได้ทำเรื่องอาหารก็เข้าทางเลย นำเสนอเรื่องนี้เลยละกัน ตอนแรกก็ไม่กล้ากินเท่าไหร่ พอได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ก็เลยคิดว่าลองสักหน่อยแล้วกัน อยากรู้เหมือนกันว่ารสชาติเป็นยังไง ก็เลยลองกินแมงป่องทอดเองเลย มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดไว้ตอนแรกนะคะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิตเลยค่ะที่ครั้งหนึ่งเคยกินแมงป่องทอด ฮ่าๆๆๆ




               แต่สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเตยก็คือเรื่องการเขียนค่ะ กว่าจะเขียนได้คอลัมน์หนึ่งใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ ลบๆ เขียนๆ ลบๆ เขียนๆ อยู่อย่างนั้นไม่รู้กี่รอบ บางทีก็เขียนเป็นภาษาของตัวเองมากเกินไป บางทีก็ใช้ภาษาไม่ถูกต้อง ไม่รู้ว่าจะใช้ภาษายังไงให้มันอ่านง่าย เรียบลื่น ไม่ติดขัด ไม่รู้ว่าที่เขียนไปคนอ่านจะเข้าใจเรามั้ย แต่ก็ทำอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วค่ะ
               ทุกๆ ขั้นตอนในการทำนิตยสารครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขั้นตอนการทำงาน การใช้ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นกลุ่ม การปรับตัวเข้าหาผู้อื่น ทำให้รู้ว่าตัวเองถนัดด้านไหน หรือไม่ถนัดด้านไหน สามารถนำข้อดีไปพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นได้ และสามารถนำสิ่งที่ไม่ถนัดไปฝึกฝนและพัฒนาต่อไปได้ ต้องขอขอบคุณอาจารย์นัทธีรัตน์ พีระพันธุ์ ที่ให้คำปรึกษาในการทำนิตยสารครั้งนี้ด้วยค่ะ





วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

ฝุ่น... ละอองแห่งความฝัน




เห็นคำว่า "ฝุ่น" นึกถึงอะไร?

               ความจริงแล้ว ฝุ่น คือดินแห้งหรือสิ่งอื่นที่ละเอียดเป็นผง เช่น ฝุ่นละออง ฝุ่นชอล์ก 
               ฝุ่น อาจจะไม่ใช่เพียงแค่ละอองธรรมดาๆ ก็ได้ แต่เป็นละอองแห่งความฝันของทุกๆ คน ที่ลอยอยู่บนโลกใบนี้ 




               "นิตยสารฝุ่น" เป็นผลงานการออกแบบนิตยสารด้วยตนเอง ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดในโครงการ "HP Smart Magazine Contest" เป็นการประกวดออกแบบและสร้างสรรค์นิตยสารตามใจฝันสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา โดยกลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์ - แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพี  จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมทักษะและการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนไทย ผ่านสื่อการเรียนรู้ด้านการพิมพ์



               ทำไมผลงานการออกแบบชิ้นนี้ถึงได้รับรางวัลชนะเลิศ?


               ในความคิดของดิฉัน ครั้งแรกที่เห็นโดยไม่นึกถึงหลักการออกแบบของสิ่งพิมพ์ ก็รู้สึกว่าชื่อนิตยสาร ข้อความ กับรูปภาพมันสอดคล้องกัน ทำให้รู้สึกน่าติดตามว่าเนื้อหาภายเล่มจะเป็นอย่างไร
               แต่ถ้าหากนำมาวิเคราะห์ตามหลักการออกแบบของสิ่งพิมพ์แล้ว ดิฉันคิดว่าเหตุผลที่ผลงานการออกแบบชิ้นนี้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เพราะ...

               > การออกแบบเข้าถึงเป้าหมายที่วางไว้ เป้าหมายของนิตยสารเล่มนี้คือวัยรุ่นที่มีความฝัน และกำลังหาแรงบันดาลใจ ซึ่งแต่ละคนมีความฝันที่แตกต่างกัน คล้องจองกับภาพที่สื่อถึงว่าแต่ละคนเลือกทำในสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
               > คำว่า "ฝุ่น" เป็นชื่อนิตยสารที่จดจำง่าย น่าสนใจ ทำให้ชวนคิดว่าทำไมต้องฝุ่น? ฝุ่นมีอะไร? เนื้อหาอะไรที่เกี่ยวกับคำว่าฝุ่น?
               > รูปภาพของปกเป็นแบบตัดตก แบบนี้จะกะขนาดได้ยากกว่าแบบกรอบภาพ เพราะจะต้องกะขอบให้พอดีเวลานำไปตีพิมพ์ ถ้ากะขนาดไม่ดีก็อาจจะทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งถูกตัดออกไปได้ รูปภาพแบบตัดตกทำให้รูปภาพของปกดูสวยขึ้น และสามารถสื่ออารมณ์ได้ดี
               > มีรายละเอียดของเล่ม ว่าผลิตในเดือนใด ปีใด
               > คำโปรยหน้าปกมีความน่าสนใจ และไม่เยอะจนดูรกตา ขนาดตัวหนังสือใหญ่เล็กรองลงมาตามความน่าสนใจของเนื้อหา
             



               โดยรวมแล้วการออกแบบนิตยสารฝุ่นนี้มีความเรียบง่าย และลงตัวมากเลยทีเดียวค่ะ มีความน่าสนใจ เหมาะแล้วที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คว้าเงินรางวัลมูลค่ากว่า 200,000 บาท
               อีกสิ่งหนึ่งที่น่าภูมิใจคือผลงานการออกแบบชิ้นนี้เป็นผลงานของ 3 สาว ชั้น ม.5 โรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ เป็นเยาวชนที่อายุน้อย แต่สามารถทำผลงานออกมาได้ดีขนาดนี้ ดิฉันเชื่อว่าในอนาคต ถ้าพวกเขามีโอกาสได้พัฒนาฝีมือ พวกเขาอาจจะมีผลงานการออกแบบสิ่งพิมพ์ดีๆ อย่างนี้ หรือพัฒนาฝีมือมากขึ้นอีก มาให้ผู้อ่านอย่างแน่นอนค่ะ








ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
http://www.thairath.co.th/content/tech/267309